เรเว่ ออโตโมทีฟ นำคณะสื่อมวลชนสายรถยนต์ชั้นนำกว่า 120 ชีวิต มาร่วมกิจกรรมทดสอบรถยนต์บีวายดี ซีล จำนวน 3 รุ่นย่อยรวม 30 คัน เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 100% บนเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ–เขาใหญ่-กรุงเทพฯ แบบวันเดย์ทริปภายใต้เส้นทางการขับขี่จริงครอบคลุมระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร พร้อมท้าพิสูจน์นวัตกรรมหลายด้านทั้งสมรรถนะ ระยะทางขับขี่และอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน
บีวายดี ซีล เป็นรถไฟฟ้าพรีเมี่ยมสปอร์ตซีดาน ดูสปอร์ต หรูหรา เรียกได้ว่าเป็นรุ่นใหญ่ที่หลายคนรอคอย โฉบเฉี่ยวจากความสวยงามของศิลปะแห่งท้องทะเล พร้อมเส้นสายช่วงหน้ารถแบบ X-SHAPED DESIGN ไฟท้ายแอลอีดี แบบชิ้นเดียว ประกอบด้วยไฟรูปหยดน้ำเรียงเป็นชั้น กันชนหลังมีมิติคมชัด ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า ระบบป้องกันการหนีบอัจฉริยะ หลังคากระจกพาโนรามิก 2 ชั้นเคลือบด้วย Silver-plated ช่วยให้การส่องผ่านแสงไม่เกิน 4.2% แสงแดดส่องผ่านได้ไม่เกิน 16% ขนาดใหญ่ถึง 1.9 ตรม. ให้มุมมองที่กว้าง
นอกจากนี้ยีงใช้ e-platform 3.0 เอกสิทธิเฉพาะรถไฟฟ้าบีวายดี มาพร้อมกับเทคโนโยลีการติดตั้งแบตเตอรีแบบ Cell To Body (CTB) โครงสร้างแบตเตอรีถูกออกแบบให้สามารถปิดผนึกเข้าได้โดยตรงกับโครงสร้างรถยนต์อย่างลงตัวเพิื่อให้ประสิทธิภาพการปิดผนึก ด้านระบบฟังก์ชั่นการทำงานควบคุมด้วยเสียง ใช้หน้าจอสัมผัสหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว และใช้ปุ่มควบคุมต่าง ๆ โดยไม่จําเป็นต้องขยับมือ สําหรับอุปกรณ์ IOS หรือ Android Auto10 พร้อมหน้าหลังพวงมาลัยแอลซีดีขนาด 0000 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม อคูสติก มาพร้อมชุดลําโพง 12 ตัว ที่วางชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายให้ถึง 2 ช่อง และได้ใช้จริงโดยเฉพาะมีผู้โดยสาร 3 คนทสามารถใช้งานได้ ทั้งแอร์ด้านหลังก็เย็นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
มาถึงการทดสอบจัดขึ้นภายใต้สภาวะการขับขี่จริง เริ่มต้นขึ้นที่ดาวิน คาเฟ่ กรุงเทพฯ จุดลงทะเบียนพร้อมกับรับฟังข้อมูลผลิตภัณฑ์จากนั้น ทุกคนจับฉลากว่าจะได้ขับรุ่นไหนก่อน ซึ่งทีมบีวายดีจัดรถซีลไว้ 30 คัน แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยคือรุ่นไดนามิก (ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุด) รุ่นพรีเมียม และ AWD Performance ช่วงแรกได้ลองตัวท็อป AWD Performance ขับเคลื่อน 4 ล้อ เมื่อปลดล็อครถได้อย่างง่ายดายผ่านคีย์เลส มือเปิดประตูแบบซ่อนจะเลื่อนออกมาให้ดึงประตูเปิดเมื่อเปิดประตูฝั่งคนขับสิ่งแรกที่จะได้สัมผัสคือเวลคัมซีทที่เบาะจะถอดออกอัติโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เข้าและออกได้อย่างคล่องตัว ห้องโดยสารวัสดุหนังสีดำในทุกรุ่น ออกแบบปราณีตในทุกรายละเอียด โดยสีภายนอกมี 4 สีให้เลือกแยกตามรุ่นดังนี้คือ ไดนามิก ใช้สีขาวและดำ, รุ่นพรีเมียมใช้สีขาว ดำและเทา ส่วนรุ่น AWD PERFOMANCE ใช้สีขาว ดำ เทาและ ฟ้า
ระหว่างทางมุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ 110 กิโลเมตรแบบฟรีรัน โดยจุดแรกที่นัดหมายคือร้านกาแฟ Barnery The Harmony Library ซึ่งอยู่บนเส้นทางรอง รับเครื่องดื่มของว่างพร้อมทั้งได้มีการสลับรุ่นรถกันโดยมาขับ รุ่นพรีเมียม ใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แตกต่างกันทั้งเบาะหนังอย่างดี ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วทั้งสองรุ่น สำหรับพละกำลังแรงเบาไม่ต่างกันมาก ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะทำงานขันแข็ง เสียงเตือนตลอดเวลา แถมต้องใช้กำลังบังคับพวงมาลัยที่มีความคมแม่นยำเพื่อไม่ให้กระชากหรือเตือนรุนแรงไปสักหน่อย หากตกใจอาจทำให้รถไปชนกับรถคันอื่นที่อยู่ใกล้กันก็ได้ แต่ฟิลลิ่งการขับต้องยอมรับว่าเร็วหรือแรงสั่งได้ เป็นรถที่ขับสนุก แม้ว่าจะผ่านถนนไม่ราบเรียบ การออกตัวบ่อยๆ สั่งได้ดั่งใจ
จากนั้นได้เดินทางต่ออีก 95 กิโลเมตรเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านครัวกำปั่น เขาใหญ่ และเช็คแบตเตอร์รี่ที่เหลือรุ่นพรีเมียมกว่า 50% กับระยะทางที่ใช้ไปกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งการขับทั้งสองรุ่นนั้นไม่ได้ถนอมแบตเตอร์รี่ เพราะขับตามการใช้งานของแต่ละคนชัดเจน
สำหรับระยะทางจากร้านอาหารไปยังสนามทดสอบสมถะนะการขับขี่ในสนาม 8 สปีด ที่ห่างออกไป 15 กิโลเมตร เพื่อทดสอบฟังก์ชั่นการขับขี่ อาทิ เช่นการเปลี่ยนเลนกระทันด้วยความเร็ว การเบรก อัตราเร่ง ผ่านวงเวียนเพื่อทดสอบการทรงตัวด้วยกับระบบกันสะเทือนหน้าปีกนกคู่ ระบบกันสะเทือนหลังมัลติลิงค์ (Five-Link) ผสานการทำงานกับโช้คอัพที่ปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ Frequency Selective Damping (FSD) ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและความแข็งของโช้คอัพได้โดยอัตโนมัติ การปรับเปลี่ยนแบบแปรผันอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโครงสร้างตัวถัง e-Platform 3.0 ที่ออกแบบมาเพื่อรถไฟฟ้าบีวายดีโดยเฉพาะ รองรับทุกสภาพถนนในการขับขี่ รวมถึงได้ทดสอบฟังก์ชั่นอื่นๆคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ในช่วงเดินทางกลับจากเขาใหญ่-กรุงเทพฯ ได้ลองซีลตัวล่างรุ่นไดนามิก แตกต่างอย่างเช่นใช้หนังเทียม แต่ลวดลายต่างๆคล้ายกับอีก 2 รุ่น สามารถลองสัมผัสการขับขี่แบบยาวๆอีกครั้งบนสภาพถนนจริงเพื่อได้สัมผัสทุกระบบ ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานตอบโจทย์ผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างแท้จริงด้วยระยะทางรวมถึงกว่า 400 กม.ในเวลา 1 วันความรู้สึกของผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะรู้สึกผ่อนคลายตลอดการทดสอบครั้งนี้ อย่างไรก็ตามยังมีจุดติส่วนตัวเรื่องระบบการเตือนที่กระโชกโฮกฮาก ที่ปัดน้ำฝนขนาดเล็กมากเพราะฝนตกระหว่างเดิินทางกลับเข้ากรุงเทพฯที่ปัดน้ำฝนใช้งงานไม่ดีพอ
จากการได้ขับทั้ง 3 รุ่น ได้ข้อสรุปว่าด้วยขนาดความจุของแบตเตอร์รุ่นกลางกับรุ่นท็อปเท่ากันคือ 82.56KWh โดยรุ่นกลางวิ่งได้ระยะทางต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งเท่ากับ 650 กิโลเมตร (เพราะขับเคลื่อน 2 ล้อ) รุ่นท็อปทำได้ 580 กิโลเมตร ส่วนรุ่นล่างสุดได้ 510 กิโลเมตร แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรกรรมการขับ ซึ่งระยะทางไปกลับกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ที่ออกนอกเส้นทางบ้างก็ทำให้ผู้ขับหลายคันต้องแวะชาร์จไฟก่อนถึงจุดหมายปลายทางนั่นเอง ส่วนราคาซีลอยู่ระหว่าง 1.325-1.599 ล้านบาท พร้อมส่งมอบรถทันที.